Courier - บุคคลหรือบริษัทที่ส่งข้อความ จดหมาย จดหมายโต้ตอบอื่นๆ และสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ให้กับนายจ้าง วันนี้ บริการของบริษัทจัดส่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลายและกระตือรือร้น
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ติดต่อผู้ให้บริการจัดส่งที่เลือกทางโทรศัพท์ อีเมล หรือบนเว็บไซต์ขององค์กร ขอแนะนำให้โทรหาผู้จัดส่งล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม บริการส่วนใหญ่ยังมีบริการพิเศษ - ผู้จัดส่งจะมาถึงในเวลาใดก็ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนภายในหนึ่งชั่วโมง เร็วกว่านั้นบางทีก็ทำไม่ได้
ขั้นตอนที่ 2
ฝากคำขอโดยระบุข้อมูลของคุณและข้อมูลของผู้รับ ตลอดจนที่อยู่และผู้ติดต่อที่ผู้จัดส่งต้องการรับพัสดุภัณฑ์
ขั้นตอนที่ 3
เมื่อส่งมอบบรรจุภัณฑ์ให้กับผู้จัดส่ง คุณจะต้องลงนามในข้อตกลง (แบบฟอร์ม A4 น้อยกว่าครึ่งแผ่น) โดยต้องแน่ใจว่าได้ระบุว่าคุณไม่ได้โอนสินค้าต้องห้ามหรือสินค้าที่มีการหมุนเวียนอย่างจำกัด
ขั้นตอนที่ 4
ใช้เครื่องคำนวณบริการหากคุณโทรหาผู้จัดส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตามกฎแล้ว คุณต้องป้อนน้ำหนักของพัสดุ มูลค่าของพัสดุ รวมถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการขนส่ง ความเร่งด่วนของคำสั่งซื้อจะส่งผลต่อต้นทุนด้วย
ขั้นตอนที่ 5
มาที่สำนักงานบริการจัดส่งด้วยตัวคุณเองและจัดการจัดส่งสินค้า ในการดำเนินการนี้ ให้กรอกแบบฟอร์มการจัดส่งพิเศษ ระบุเวลาที่คุณออกจากบรรจุภัณฑ์และเวลาที่ควรจะส่งถึงผู้รับ ชำระค่าบริการในพื้นที่ เก็บใบเสร็จไว้จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าได้รับพัสดุแล้ว
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อส่งใบสมัครสำหรับการจัดส่งของที่ต้องจัดส่ง คุณมีสิทธิ์ใช้บริการเพิ่มเติมด้วยความช่วยเหลือซึ่งการขนส่งสินค้าหรือของที่ต้องจัดส่งจะมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และสะดวกสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถประกันการจัดส่ง ติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเส้นทางได้แบบเรียลไทม์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการจัดส่งและผู้ให้บริการจัดส่งสามารถให้ความช่วยเหลือด้านการจัดส่งระหว่างประเทศได้
ขั้นตอนที่ 7
บริการจัดส่งจะตรวจสอบทุกขั้นตอนของการขนส่งเสมอตั้งแต่ช่วงเวลาที่ได้รับสินค้าจนถึงการจัดส่งไปยังผู้รับ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในการจัดส่งพัสดุที่มากขึ้น
ขั้นตอนที่ 8
ระบุที่อยู่สำหรับจัดส่งแบบเต็ม บุคคลที่สามารถจัดส่งพัสดุภัณฑ์ให้ในกรณีที่ไม่มีผู้รับหลัก ตลอดจนน้ำหนักของของที่ต้องจัดส่งและมูลค่าของพัสดุ