กรุ๊ปเลือดมักจะระบุได้หลังคลอดบุตร เมื่อเวลาผ่านไป จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีทั้งหมดสี่กลุ่มเลือดและกลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่พบมากที่สุดและเป็นสากล
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
เลือดแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการมีหรือไม่มีแอนติเจนและแอนติบอดีที่เกี่ยวข้องกับพวกมัน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ 4 กรุ๊ปเลือด มีการทำเครื่องหมายดังนี้: อันแรกคือ 0 (I) ที่สองคือ A (II) ที่สามคือ B (III) และที่สี่คือ AB (IV) ตัวอักษรในการกำหนดระบุว่าไม่มีหรือมีแอนติเจนของกลุ่มต่าง ๆ ในเลือด
ขั้นตอนที่ 2
กรุ๊ปเลือดกลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่มีมากที่สุดในโลก ผู้คนประมาณ 45% เป็นเจ้าของกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ลำดับความสำคัญอื่น ๆ ตามมา เมื่อถ่ายเลือดควรจำไว้ว่าไม่ใช่ทุกกลุ่มที่เข้ากันได้ แต่กลุ่มแรกคือ "ผู้บริจาคสากล" สามารถถ่ายให้กับเจ้าของกลุ่มเลือดอื่น ๆ ได้เนื่องจากไม่มีแอนติเจนเลยเช่น ระบุด้วย 0 ในการติดฉลาก
ขั้นตอนที่ 3
เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าก่อนหน้านี้ทุกคนมีกรุ๊ปเลือดเพียงกลุ่มเดียว เชื่อกันว่ากลุ่มแรกคือสายเลือดของคนโบราณที่เป็นนักล่าและรวบรวม นักวิจัยเชื่อว่าองค์ประกอบของมันในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ขั้นตอนที่ 4
เป็นที่เชื่อกันว่าคนที่มีกรุ๊ปเลือดกลุ่มแรกมีคุณสมบัติเช่น ความมุ่งมั่น ความกล้าแสดงออก ความรับผิดชอบและการปฏิบัติจริง เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาในการตัดสินใจที่ยากลำบากและประเมินเหตุการณ์อย่างเพียงพอ คนที่มีกรุ๊ปเลือดนี้มักจะมั่นใจในตัวเอง พวกเขามีโครงสร้างที่แข็งแรงและแข็งแรงพร้อมกล้ามเนื้อที่กำหนดไว้อย่างดี
ขั้นตอนที่ 5
นอกจากการแบ่งเลือดออกเป็นกลุ่มตามแอนติเจนและแอนติบอดีในองค์ประกอบของเลือดแล้ว ยังมีการแบ่งเพิ่มเติมตามปัจจัย Rh แนวคิดนี้แสดงถึงโปรตีนพิเศษที่อาจปรากฏบนผิวเซลล์เม็ดเลือดแดง ถ้าใช่ ปัจจัย Rh จะถือเป็นค่าบวก ถ้าไม่ใช่ จะเป็นค่าลบ เชื่อกันว่า 85% ของมนุษยชาติมีปัจจัย Rh ที่เป็นบวก
ขั้นตอนที่ 6
ดังนั้น หากเราพิจารณาปัจจัย Rh และกลุ่มเลือดในความสัมพันธ์เดียว กลุ่มที่พบบ่อยที่สุดคือกลุ่มบวกกลุ่มแรก และกลุ่มที่หายากที่สุดคือกลุ่มเชิงลบที่สี่
ขั้นตอนที่ 7
การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่ากรุ๊ปเลือดสามารถระบุโรคที่เจ้าของมักชอบได้ ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดกลุ่มแรกมักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและการแข็งตัวของเลือด มักเป็นโรคกระเพาะ แผลในกระเพาะอาหาร และโรคเกี่ยวกับการอักเสบ ปัญหาที่พบบ่อยอีกประการหนึ่งในผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดนี้คือความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เด็กที่มีกรุ๊ปเลือดกลุ่มแรกมักมีอาการแพ้ ติดเชื้อเป็นหนอง ทารกมักมีปัญหาทางเดินอาหาร