เมื่อเริ่มค่ำในสภาพอากาศแจ่มใส ดวงดาวก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า บางตัวมีขนาดใหญ่และสว่าง บางตัวมีขนาดเล็กและหรี่ลง ตั้งแต่สมัยโบราณ แสงอันเย็นยะเยือกของดวงดาวที่อยู่ห่างไกลได้ดึงดูดความสนใจของบุคคล ทำให้เขาต้องเพ่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืน เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนเริ่มจัดกลุ่มดาวซึ่งเรียกว่ากลุ่มดาว หนึ่งในนั้นชื่อสวอน
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
กลุ่มดาว Cygnus เป็นกลุ่มดาวที่มองเห็นได้ในซีกโลกเหนือ ชนเผ่าโบราณเห็นนกบินได้มีปีกกางออกและเรียกง่ายๆ ว่า "นก" "นกป่า" หรือ "ไก่" ในทางดาราศาสตร์ ดาวกลุ่มนี้เรียกอีกอย่างว่า "กางเขนเหนือ"
ขั้นตอนที่ 2
กลุ่มดาวซิกนัสจะสังเกตได้ดีที่สุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน หากมองด้วยตาเปล่า คุณจะเห็นดาวที่สว่างที่สุดเพียงสี่ดวงเท่านั้น ในกรณีนี้กลุ่มดูเหมือนกากบาทขนาดใหญ่ข้ามทางช้างเผือก ในกรณีของการสังเกตนกหงส์หยกผ่านกล้องส่องทางไกลด้วยกำลังขยายที่ดี ดาวฤกษ์อีกหลายดวงจะแยกแยะได้ เมื่อเชื่อมต่อจิตใจเข้าด้วยกัน คุณจะได้รูปร่างที่คล้ายกับนกในโครงร่าง ส่วนล่างเป็นหัวคอโค้ง ส่วนบนจะมีหาง
ขั้นตอนที่ 3
Cygnus Tail คือดาว Deneb หรือ α-Cygnus ซึ่งสว่างที่สุดในกลุ่มดาว Deneb เป็นจุดอ้างอิงเมื่อค้นหากลุ่มดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน และเป็นส่วนหนึ่งของ "Summer Triangle" ด้วย หากสังเกตดูซิกนัสผ่านกล้องโทรทรรศน์ คุณจะสามารถแยกแยะเนบิวลาอเมริกาเหนือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวได้ใกล้ๆ กับมัน เนบิวลาที่มีสีสันเท่าเทียมกันอื่นๆ ประกอบเป็นปีก ลำตัว และคอโค้งยาวของนก หงส์จบลงด้วยดาวคู่ที่น่าประทับใจ Albireo ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศีรษะ
ขั้นตอนที่ 4
เป็นไปได้มากที่กลุ่มดาวจะได้ชื่อมาจากตำนานกรีกโบราณเรื่องหนึ่ง หนึ่งในนั้นเล่าถึงความรักของพระเจ้า Zeus ที่มีต่อ Leda เด็กสาวผู้เป็นมนุษย์ ตามตำนานเล่าว่า Zeus เพื่อปราบภริยาของกษัตริย์ Tyndareus ให้กลายเป็นหงส์ขาวที่สวยงาม ในรูปแบบนี้เขาล่อลวง Leda ที่สวยงามซึ่งในไม่ช้าก็ให้กำเนิดลูกสองคน - Polidevka และ Elena ผู้กระทำความผิดของสงครามโทรจันสิบปี การปรากฏตัวของหงส์ในท้องฟ้าอีกรุ่นหนึ่งพูดถึงความรักของออร์ฟัสที่มีต่อยูริไดซ์
ในคริสต์ศตวรรษที่ 2 นักดาราศาสตร์และนักคิดชาวกรีกโบราณ คลอดิอุส ปโตเลมี ได้สร้างแผนที่ดาวอัลมาเกสต์ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มดาว 48 กลุ่มที่มองเห็นได้จากอเล็กซานเดรีย รวมทั้งกลุ่มดาวซิกนัส