จดหมายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ และเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าโง่เขลา คุณต้องสามารถเขียนจดหมายได้ แม้แต่การสื่อสารทางอีเมลที่ง่ายเกินไปสำหรับบุคคลที่เคารพตัวเองและคู่สนทนาของเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะละเลยศีลของประเภทจดหมายเหตุ
มันจำเป็น
- - กระดาษ;
- - ปากกา.
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
เขียนจดหมายด้วยใจที่สดชื่น หากจดหมายนั้นเขียนขึ้นในตอนเย็นหรือมีอารมณ์รุนแรง อย่าขี้เกียจเกินไปที่จะอ่านซ้ำในอีกไม่กี่ชั่วโมง (ในตอนเช้า) แล้วจึงตัดสินใจว่าจะส่งข้อความไปยังผู้รับได้หรือไม่ นอกจากนี้ อย่าเริ่มเขียนหากคุณรู้สึกไม่สบาย อารมณ์ไม่ดี ไม่มีเวลาพอที่จะคิดให้รอบคอบเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะนำเสนอ
ขั้นตอนที่ 2
เริ่มจดหมายของคุณด้วยคำทักทาย ทักทาย "สวัสดีตอนบ่าย", "สวัสดี" และคำอื่นๆ แบบนี้จะเหมาะ หากจดหมายนั้นไม่เป็นทางการหรือการสื่อสารของคุณกับผู้รับนั้นไม่เป็นทางการ คุณสามารถทักทายโดยใช้ “สวัสดี!” ได้ คำทักทายมักจะตามมาด้วยการอุทธรณ์ไปยังผู้รับโดยใช้ชื่อ: "สวัสดีที่รัก (ผู้มีเกียรติ) Semyon Semyonovich"
ขั้นตอนที่ 3
แนะนำตัวเอง. วิธีนี้เหมาะสมอย่างยิ่งหากคุณกำลังติดต่อเจ้าหน้าที่ การเขียนจดหมายหาใครสักคนเป็นครั้งแรก และในกรณีอื่นๆ มากมาย คุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องแนะนำตัวก็ต่อเมื่อผู้รับเป็นเพื่อนในอ้อมอกของคุณ (ญาติ) ที่คุณมีการติดต่อทางจดหมายมายาวนาน
ขั้นตอนที่ 4
กำหนดความคิดของคุณอย่างชัดเจน ชัดเจน ไม่มีที่ว่างสำหรับความกำกวม พยายามทำให้ตัวเองอยู่แทนผู้รับในขณะที่เขียนจดหมาย วลีใดจะถือว่าไม่เหมาะสมหรือประโยคที่เข้าใจผิด?
ขั้นตอนที่ 5
เขียนให้ถูกต้อง พยายามหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และการสะกดคำ คุณสามารถตรวจสอบการสะกดคำที่ไม่คุ้นเคยได้เสมอโดยใช้พจนานุกรม จำไว้ว่าการไม่รู้หนังสือทำให้คุณดูแย่ต่อหน้าผู้รับ น้อยคนนักที่จะจริงจังกับคนที่ทำผิดพลาดได้ 2 ข้อในคำง่ายๆ
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อคุณเขียนจดหมายเสร็จแล้ว อย่าลืมบอกลา แสดงความเคารพต่อผู้รับ - ตัวอย่างเช่น ด้วยวลี "ขอแสดงความนับถือ" และอย่าลืมสมัครรับข้อมูล นี่เป็นกฎ "ทอง" เดียวกับการล้างมือก่อนรับประทานอาหาร นอกจากนี้ ลายเซ็นสำหรับจดหมายกระดาษจะต้องอ่านได้ชัดเจนที่สุด
ขั้นตอนที่ 7
หากคุณพลาดอะไรไป คุณสามารถเพิ่มข้อความที่ท้ายจดหมายได้ ใส่ก่อนการเติม "ps." ซึ่งแปลว่า "postscript" - "after the letter"